ทันตแพทย์ มข. ร่วมสืบสาน พระปณิธาน “สมเด็จย่าทรงพระเมตตาให้ปวงประชามีฟันดี”

411 ครั้ง

“ฉันเชื่อว่าพวกที่ได้รับการรักษาโรคฟันนี้คงจะพอใจมากเพราะโรคฟันเต็มที่มาก ถ้าปวดไปแล้ว ถ้าไม่ได้ทำอะไรทำให้ไม่สบายจริงๆ พอช่วยถอนออกแล้วก็สบายมาก  ฉะนั้นการที่ท่านได้ไปช่วยก็ได้บุญกุศลมากทีเดียว ฉันขอขอบใจทุกท่านที่ได้พยายามปฏิบัติอันนี้มาหลายปีแล้ว  และหวังว่าท่านจะมีจิตใจกุศลยังช่วยกันต่อไป”

จากกระแสพระราชดำรัสเมื่อวันที่ ๑๔ ธันวาคม ๒๕๒๙   ของสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ทำให้รู้ว่าทรงสนพระทัย ในเรื่องสุขภาพของประชาชนตลอดมา   อีกทั้งทรงมีพระมหากรุณาธิคุณ ก่อตั้งหน่วยแพทย์อาสา  ซึ่งมีแพทย์ ทันตแพทย์ พยาบาล เภสัช และประชาชนในสาขาวิชาชีพอื่นๆ ร่วมเป็นอาสาสมัครในการให้บริการรักษาประชาชนที่มีปัญหาป่วยไข้และอยู่ห่างไกลสถานพยาบาล ตั้งแต่ปี ๒๕๑๒ จนถึงปัจจุบัน คณะทันตแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น จึงพร้อมใจกันจัดกิจกรรมเนื่องในวันทันตสาธารณสุขแห่งชาติ ประจำปี ๒๕๖๒ ให้บริการทันตกรรมเทิดพระเกียรติสมเด็จย่า เพื่อปวงประชามีฟันดี  โดยเปิดให้บริการทางทันตกรรมโดยไม่คิดมูลค่าแก่ประชาชน อาทิ บริการอุดฟัน ขูดหินน้ำลาย เคลือบหลุมร่องฟัน เคลือบฟลูออไรด์ และนิทรรศการเทิดพระเกียรติสมเด็จย่า นิทรรศการเทิดพระเกียรติในหลวงกับงานทันตกรรม และนิทรรศการทันตสุขศึกษา โดยในปีนี้กำหนดจัดขึ้น ในวันจันทร์ที่ ๒๑ ตุลาคม ๒๕๖๒ โดยในช่วงเช้าถวายพานพุ่มดอกไม้สด เพื่อถวายเป็นพระราชสักการะสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี และนิทรรศการสมเด็จย่ากับงานทันตกรรมและการให้ความรู้ด้านการดูแลสุขภาพช่องปากและฟันเบื้องต้น ณ โรงพยาบาลศรีนครินทร์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น หลังจากนั้นให้บริการทางทันตกรรมโดยไม่คิดมูลค่า อาทิ อุดฟัน ขูดหินน้ำลาย ถอนฟัน เคลือบหลุมร่องฟัน เคลือบฟลูออไรด์  พร้อมนิทรรศการเทิดพระเกียรติสมเด็จย่า  การให้คำปรึกษาเกี่ยวกับสุขภาพช่องปากและฟันเบื้องต้น ตั้งแต่เวลา ๐๘.๓๐ – ๑๒.๐๐ น. ณ โรงพยาบาลทันตกรรม คณะทันตแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น  

รศ.ดร.ทพญ.วรานุช ปิติพัฒน์ คณบดีคณะทันตแพทยศาสตร์ กล่าวว่า “กิจกรรมวันทันตสาธารณสุขแห่งชาติ  ๒๑ ตุลาคม  เป็นโครงการที่ได้ดำเนินการอย่างต่อเนื่องมา โดยเริ่มตั้งแต่ปี  พ.ศ. ๒๕๒๙    โดยมูลนิธิแพทย์อาสาสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี (พอสว.) เนื่องในวันคล้ายวันพระราชสมภพของสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนีและได้ดำเนินการต่อเนื่องมาทุกปีและต่อมาในปี พ.ศ. ๒๕๓๒ คณะรัฐมนตรีได้มีมติอนุมัติให้วันที่  ๒๑  ตุลาคม  ของทุกปี  เป็นวันทันตสาธารณสุขแห่งชาติแห่งชาติ ในวันดังกล่าว มูลนิธิแพทย์อาสาสมเด็จ พระศรีนครินทราบรมราชชนนี (พอสว.) กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงศึกษาธิการ  กระทรวงกลาโหม กระทรวงมหาดไทย และหน่วยงานทันตกรรม  ที่เป็นหน่วยงานของรัฐทุกแห่งในประเทศ ได้น้อมเกล้าถวายความจงรักภักดีและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ ร่วมแรงร่วมใจให้บริการรักษาโรคช่องปากแก่ประชาชน  โดยไม่คิดมูลค่า เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี และเพื่อเป็นการปฏิบัติบูชาแด่  “พระมารดาแห่งการทันตแพทย์ไทย”   ทั้งนี้หน่วยทันตกรรมพระราชทาน ในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว  ได้เริ่มดำเนินกิจกรรมการตรวจรักษา  ให้บริการทางทันตกรรมตามพระราชดำริมาตั้งแต่ พ.ศ. ๒๕๑๓ เพื่อให้ประชาชนผู้มีฐานะยากจน และด้อยโอกาสทางสังคมได้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นทั่วทุกพื้นที่ของประเทศไทย โดยงบประมาณในการดำเนินงานทั้งหมดได้มาจากเงินพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งค่าใช้จ่ายจำนวนมากเป็นการจัดซื้อเครื่องมือวัสดุ อุปกรณ์  และการดูแลบำรุงรักษา รวมทั้งการให้บริการรักษาทางทันตกรรม   การดำเนินงานระยะเวลาต่อมา  ได้ขยายพื้นที่การให้บริการและรูปแบบ   กิจกรรมการรักษา การเผยแพร่ความรู้ด้านทันตกรรม และสุขภาพช่องปากเพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก ซึ่งปัจจุบันหน่วยทันตกรรมพระราชทาน ในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ยังคงออกปฏิบัติงานเพื่อให้บริการแก่ประชาชนที่อยู่ห่างไกลและยากจนทั้งในประเทศไทย และประเทศเพื่อนบ้าน หรือตามแต่จะมีพระราชกระแสอยู่เป็นประจำ ทุกครั้งที่หน่วยทันตกรรมพระราชทาน ในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ออกปฏิบัติงานจะมีสิ่งประดิษฐ์ใหม่ๆเกิดขึ้นจากทันตแพทย์และเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานที่ร่วมกันสนับสนุนพัฒนาปรับปรุงเพิ่มขึ้นอยู่ตลอดเวลา เพื่อให้เหมาะสมกับสภาพภูมิประเทศ และลักษณะทางกายภาพของผู้รับการรักษาในแต่ละพื้นที่ ทั้งนี้สืบเนื่องมาจากการน้อมนำแนวพระราชดำริที่พระองค์ทรงปรารถนาให้คนไทยสามารถพึ่งพาตนเองได้ตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาเป็นหลักในการปฏิบัติงานอีกด้วย สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี พระองค์ทรงสนพระทัยเกี่ยวกับสุขภาพของปวงชนชาวไทยเป็นอย่างมากโดย เฉพาะโรคของช่องปากและฟัน   ซึ่งดูเหมือนจะไม่ร้ายแรงแต่จัดเป็นโรคเรื้อรัง และบั่นทอนเศรษฐกิจและสุขภาพ ทรงเล็งเห็นความสำคัญดังกล่าว และทรงสนับสนุนกิจกรรมที่เกี่ยวกับทันตสุขภาพตลอดมา”

คณะทันตแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น เชื่อว่าผลการจัดกิจกรรมในครั้งนี้ จะช่วยกระตุ้นให้ประชาชน รู้จักดูแลรักษาสุขภาพช่องปากมากขึ้น และเป็นการสืบสานพระปณิธานของสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี  ในการช่วยเหลือประชาชนให้พ้นจากการเจ็บปวดจากโรคในช่องปาก บุคลากรคณะทันตแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น จึงขอสดุดีและขอร่วมถวายราชกุศล ตลอดจนตั้งปณิธานแน่วแน่ในการพัฒนาทันตสุขภาพของประชาชนชาวไทยอย่างต่อเนื่องต่อไปในอนาคต