รพ.ทันตกรรม มข. ปรับรูปแบบการบริการรับ New Normal

511 ครั้ง

โรงพยาบาลทันตกรรม มหาวิทยาลัยขอนแก่น เปิดบริการแล้ว เน้นรับเฉพาะผู้ป่วยฉุกเฉิน พร้อมจัดมาตรการคัดกรองกลุ่มเสี่ยงเข้ม ขณะที่ทันตแพทย์ต้องสวมชุด PPE ป้องกันการฟุ้งกระจาย จัดห้องส่วนตัว เพิ่มอุปกรณ์ลดความเสี่ยงต่อการติดเชื้อของทันตแพทย์

เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 27 พ.ค.2563 ที่โรงพยาบาลทันตกรรม คณะทันตแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น บริเวณทางเข้าซึ่งจัดไว้ช่องทางเดียว มีจุดคัดกรองด้วยการตรวจวัดอุณหภูมิร่างกาย ทำความสะอาดมือด้วยเจลล้างมือและขอความร่วมมือให้ผู้มารับบริการสวมหน้ากากอนามัย ซึ่งจุดนี้จะคัดกรองผู้ป่วยที่ทันแพทย์นัดและผู้ป่วยฉุกเฉินเท่านั้น

รศ.ทพญ.ดร.วรานุช ปิติพัฒน์ คณบดีคณะทันตแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น เปิดเผยว่า หลังจากเกิดการแพร่ระบาดของโรคโควิด19 ทำให้โรงพยาบาลทันตกรรม คณะทันตแพทยศาสตร์ ต้องปรับเปลี่ยนวิธีให้บริการโดยหลังเกิดวิกฤติโควิด ตั้งแต่วันที่ 17 มีนาคม 2563 – 31 พฤษภาคม 2563 งดให้บริการทางทันตกรรมทุกชนิด หรือจนกว่าโควิดจะคลี่คลาย ส่วนผู้ป่วยฉุกเฉินที่มารับบริการต้องผ่านจุดคัดกรองตั้งแต่ก่อนเข้ารับบริการ และเมื่อเข้ารับการทันตแพทย์จะพิจารณาตามลักษณะงาน แบ่งเป็นประเภทงานที่ไม่ฟุ้งกระจายและงานที่ไม่ฟุ้งกระจาย ซึ่งแต่ละประเภทงานจะมีลักษณะการเตรียมผู้ป่วย การทำการรักษาและการทำความสะอาดภายหลังการรักษาที่แตกต่างกัน สำหรับทันตแพทย์ผู้รักษาซึ่งถือเป็นกลุ่มเสี่ยงที่มีโอกาสติดเชื้อได้ง่าย ได้ปรับเปลี่ยนการป้องกันการติดเชื้อด้วยการให้สวมชุด PPE ป้องกันอย่างเต็มที่ ส่วนสถานที่ วัสดุและอุปกรณ์มีมาตรการป้องกันโดยจัดห้องทำฟันที่เป็นห้องส่วนตัว ยกเลิกห้องบริการรวมทั้งหมด แต่ละห้องมีพัดลม 2 ตัวคอยพัดอากาศออกนอกหน้าต่าง และหากมีการรักษาที่มีการฟุ้งกระจายของน้ำลายทันตแพทย์จะเน้นการดูดน้ำลายทันทีและเพิ่มเครื่องดูดน้ำลายภายนอกเสริมเครื่องดูดน้ำลายแรงดันสูง และยังติดตั้งเครื่องเครื่องฟอกอากาศอีก 1 ตัว เพื่อช่วยป้องกันมากขึ้น

รศ.ดร.ทพญ.วรานุช ปิติพัฒน์ คณบดีคณะทันตแพทย์ศาสตร์ มข.

รศ.ดร.ทพญ.วรานุช ปิติพัฒน์ คณบดีคณะทันตแพทย์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น กล่าวเพิ่มเติมว่า เดิมโรงพยาบาลทันตกรรม คณะทันตแพทยศาสตร์ มข. มีการให้บริการทางทันตกรรมแก่ผู้ป่วยวันละประมาณ 500 รายแต่หลังจากเกิดสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด19 เปิดให้บริการเพียงวันละไม่เกิน 30 รายโดยรับเฉพาะผู้ป่วยฉุกเฉิน อย่างไรก็ตาม ทางคณะฯ ได้เร่งปรับเปลี่ยนรูปแบบการให้บริการเต็มศักยภาพสอดรับการวิถีชีวิตใหม่หรือ New Normal ให้ผู้ป่วยที่มารับบริการได้รับความปลอดภัยที่สุด

ที่มา https://www.khonkaenlink.info/home/news/10670.html